ค้นหาตั๋วราคาถูก และโปรโมชั่นของนัมแอร์ (NAM Air) ที่นี่!

นัมแอร์ (รหัส IATA: IN) คือสายการบินพาณิชย์จากประเทศอินโดนีเซีย ให้บริการภายใต้ศรีวิจาย่า แอร์กรุ๊ป ทางสายการบินมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่จาการ์ตา ให้บริการในฐานะสายการบินที่รับส่งผู้โดยสารในระยะใกล้เพื่อต่อเครื่องจากเมืองเล็กๆ ไปยังศูนย์กลางการบินที่จาการ์ตา สุราบายา และเดนปาซาร์ และในฐานะสายการบินใหญ่ที่บินบนเส้นทางไปสู่จุดหมายปลายทางยอดนิยม ด้วยแท็กไลน์ “Weaving the islands, closing the distance” นัมแอร์มุ่งหวังจะให้บริการเที่ยวบินไปยังปลายทางผู้โดยสารต้องการแต่ไม่มีสายการบินไหนให้บริการนัก ชื่อของสายการบินนั้นมีที่มาจากชื่อของคุณโล กุย นาม บิดาของคุณจันทรา ไล ประธานบริหารของศรีวิจาย่า แอร์ (Sriwijaya Air) อีกด้านหนึ่ง อักษรย่อ NAM นั้นก็เป็นชื่อที่ถูกใช้ในหลายภาคส่วนของศรีวิจาย่า แอร์ ได้แก่ โรงเรียนจัดการการบินระดับชาติ (National Aviation Management - NAM) ที่เป็นโรงเรียนการบินในปังกาลปีนัง และเนเกอรี อักษรา มันดีรี (NAM) ที่จัดพิมพ์นิตยสารบนเครื่องของทางสายการบิน ในฐานะสายการบินในเครือ เครื่องแบบของนัมแอร์ ก็ใช้เป็นสีขาว น้ำเงิน และแดง เช่นเดียวกับศรีวิจาย่า แอร์ สีขาวจะเป็นสีพื้นและเป็นสีตัวอักษรที่นัมแอร์ ใช้เพื่อสื่อถึงความจริงใจของทีมงาน สีน้ำเงินด้านหลังของโลโก้รูปปีกสื่อถึงแรงมุ่งมั่นของนัมแอร์ ที่จะบินไปทั่วทุกที่ในหมู่เกาะ ในขณะเดียวกัน สีแดงด้านหน้าของโลโก้ก็สื่อถึงความกล้าหาญของทั้งหัวหน้าและพนักงานของนัมแอร์ พร้อมกับเป็นเครื่องย้ำเตือนให้ทุกคนซื่อตรงและฉลาดเฉลียวเมื่อต้องเผชิญปัญหาหรือตัดสินใจไม่ว่าจะเรื่องอะไร ถ้าให้พูดอีกนัยหนึ่ง เครื่องแบบของนัมแอร์นั้นสื่อถึงวัฒนธรรมการทำงานแห่งความแน่วแน่ ซื่อตรง และกล้าหาญ นั่นเอง นัมแอร์ยึดถือวัฒนธรรมการทำงานเช่นนั้นไว้ขึ้นใจ และพิสูจน์ตนเองด้วยการทุ่มเทให้บริการผู้โดยสารอย่างเต็มที่ของทีมพนักงาน ทั้งการใส่ใจกับรายละเอียดและความมีน้ำใสใจจริง ตั้งแต่เริ่มให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2013 ทางนัมแอร์ ก็ได้พยายามไปให้ถึงเป้าหมายที่มุ่งหวังคือเป็นตัวเลือกแรกของผู้บริโภคเสมอมา ความพยายามที่ว่านี้สื่อผ่านสถิติการให้บริการที่ตรงต่อเวลาถึง 90.1% ของ 9,103 เที่ยวบิน ทำให้ทางสายการบินกลายเป็นสายการบินที่ตรงต่อเวลามากเป็นอันดับที่สองในปี 2016 ซึ่งเป็นการจัดลำดับของหน่วยงานด้านการคมนาคมและการสื่อสารของกระทรวงขนส่งของอินโดนีเซีย นอกจากนี้ กรมการบินพลเรือนของอินโดนีเซียยังได้จัดให้นัมแอร์ อยู่ใน Category 1 ซึ่งแสดงถึงระดับการให้บริการที่มีความปลอดภัยสูงสุด ด้วยความใส่ใจต่อความปลอดภัยอย่างที่สุด การดูแลรักษาฝูงเครื่องบินของ นัมแอร์ จึงเป็นหน้าที่ของทีมวิศวกรการบินผู้มากประสบการณ์จากทั้งในอินโดนีเซียและต่างประเทศ มาตรฐานการดูแลรักษาเครื่องนี้สอดคล้องกับระเบียบของศูนย์อำนวยการทั่วไปการบินพลเรือนแห่งอินโดนีเซียและกระทำตามคู่มือของทางผู้ผลิตเครื่องบินด้วย สำหรับการดูแลซ่อมบำรุงในระดับที่ไม่ใหญ่นัก ทางศรีวิจาย่า แอร์กรุ๊ปจะให้หน่วยซ่อมบำรุงอากาศยานแห่งชาติ (NAM) เป็นผู้ดูแล นอกจากนี้ นัมแอร์ ยังได้รับรางวัลจาก Boeing ในฐานะที่ให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยในการบินด้วย ส่วนในด้านการซ่อมบำรุงในระดับใหญ่ๆ ก็จะเป็นหน้าที่ของ Garuda Maintenance Facility (GMF) AeroAsia และ AiRod Sdn. Bhd. ที่เป็นผู้ให้บริการซ่อมบำรุงที่น่าเชื่อถือพร้อมมาตรฐานระดับนานาชาติ ด้วยปฏิบัติการเหล่านี้ นัมแอร์ จึงสามารถให้บริการที่สะดวกสบายและปลอดภัยสูงสุด อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งเสริมให้ นัมแอร์ ให้บริการได้อย่างปลอดภัยอย่างมากคือทักษะอันยอดเยี่ยมของนักบินและทีมพนักงานบนเครื่อง โรงเรียนจัดการการบินระดับชาติ ที่เป็นโรงเรียนการบินในปังกาลปีนัง ได้ว่าจ้างผู้สอนมากด้วยประสบการณ์จากทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือเพื่อฝึกสอนนักบิน ส่วนโรงเรียนการบินที่ได้รับการรับรองจากกรมการบินพลเรือนของอินโดนีเซียในปี 2010 ก็ให้นักเรียนได้ใช้เครื่องจำลองสถานการณ์การบินจาก Frasca และ Red Bull รวมถึงใช้เครื่องบินรุ่น Piper Warrior III ในการฝึกด้วย พนักงานต้อนรับบนเครื่องของ นัมแอร์ จะได้รับการฝึกอบรมที่ National Air Crew Management ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกที่ตั้งอยู่ที่เขตมาร์เซกาล ซูรยาดารมา ศูนย์อบรมแห่งนี้ได้รับการรับรอง TCC-142-016 จากกระทรวงขนส่งของอินโดนีเซีย และเพียบพร้อมไปด้วยเครื่องฝึกบินจำลองสถานการณ์ของ Boeing เครื่องบินกู้ชีพ สระน้ำ และเครื่องมือฝึกฝนด้านความปลอดภัยอื่นๆ มากมาย ดังนั้น ลูกค้าผู้ทรงเกียรติทุกท่านจึงสามารถไว้ใจ นัมแอร์ ในเรื่องบริการที่แสนสะดวกและปลอดภัยได้อย่างแน่นอน ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2013 นัมแอร์ เป็นหนึ่งในสายการบินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่กี่แห่งและเป็นสายการบินอินโดนีเซียแห่งแรกที่อนุญาตให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องหญิงสามารถสวมใส่ฮิญาบบนเที่ยวบินปกติได้ ก่อนหน้านั้น สายการบินของอินโดนีเซียจะอนุญาตให้พนักงานสวมใส่ฮิญาบได้เมื่อเป็นเที่ยวบินไปหรือมาจากตะวันออกกกลาง (โดยเฉพาะประเทศซาอุดิอาระเบีย) เพื่อให้บริการผู้ที่ประกอบพิธีฮัจญ์หรืออุมเราะห์ ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2015 ศรีวิจาย่า แอร์ก็ได้ทำตามแบบเดียวกัน ในฐานะผู้ให้บริการสายการบินที่มีความพิเศษต่างจากสายการบินอื่นของอินโดนีเซีย นัมแอร์ ได้ให้บริการรับส่งเพื่อเชื่อมต่อการเดินทาง ให้ผู้โดยสารได้ใช้บริการอย่างคุ้มค่าทุกเม็ดเงินที่จ่ายไป นัมแอร์ ให้บริการที่นั่งชั้นประหยัดและที่นั่งชั้นธุรกิจ ที่ให้ผู้โดยสารได้รับประทานอาหารและเครื่องดื่มชั้นยอด ผู้โดยสารยังสามารถได้รับความบันเทิงระหว่างอยู่บนเครื่องด้วยนิตยสารที่มีเนื้อหาครอบคลุมทั้งเรื่องสังคม วัฒนธรรม แฟชั่น การท่องเที่ยว และธุรกิจ นิตยสารจะนำเสนอเกร็ดการเดินทางแบบที่คนวงในรู้กันจากนักเขียนและคนในพื้นที่นั้น ด้วยรูปเล่มและดีไซน์ที่ร่วมสมัยสะอาดตา ผู้โดยสารจะได้พบกับข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เรื่องของอุปกรณ์ Gadget ที่ทันสมัย และเทรนด์การท่องเที่ยวล่าสุดเพื่อเป็นแนวทางและแรงบันดาลใจให้แก่ตนเองในการเดินทาง นัมแอร์ ยังได้ให้บริการโควตาน้ำหนักถึงที่ 30 กก. สำหรับผู้โดยสารที่นั่งชั้นธุรกิจ และถึงที่ 20 กก. สำหรับผู้โดยสารที่นั่งชั้นประหยัด นอกจากสัมภาระที่เช็คอินได้ฟรีแล้ว ผู้โดยสารยังสามารถนำสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องได้ถึงที่น้ำหนัก 10 กก. สัมภาระติดตัวนั้นจะต้องมีขนาดไม่เกิน 55 ซม. x 35 ซม. x 25 ซม. เพื่อให้สามารถเก็บไว้บนที่เก็บของเหนือศีรษะ หรือไว้ข้างใต้ที่นั่งโดยสารได้อย่างปลอดภัย ในการขึ้นเครื่อง ทางสายการบินขอให้ผู้โดยสารเดินทางมาเช็คอินที่เคาน์เตอร์ก่อนเวลาเดินทางอย่างน้อย 90 นาทีสำหรับสายการบินภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม นัมแอร์ ขอแนะนำให้ผู้โดยสารทำการเช็คอินให้เรียบร้อยก่อนกำหนดการเดินทาง 1 ชั่วโมง 45 นาทีเป็นอย่างน้อย เพื่อให้ท่านได้มีเวลาเพิ่มเติมในการเช็คอินสัมภาระ สแกนตรวจสอบความปลอดภัย และขึ้นเครื่อง ในส่วนของผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศ ทางสายการบินขอให้ท่านมาถึงท่าอากาศยานก่อนกำหนดเดินทางเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพื่อให้มีเวลาเพิ่มเติมในการเข้ากระบวนการตรวจคนเข้าเมือง หรืออีกวิธีหนึ่งคือ ผู้โดยสารสามารถเช็คอินออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของศรีวิจาย่า แอร์ก็ได้

ในแผนที่วางไว้เริ่มแรก นัมแอร์ จะเป็นสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบและแข่งขันกับสายการบินใหญ่รายอื่นๆ ของอินโดนีเซีย แต่แล้วก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น โดยในวันที่ 26 กันยายน 2013 ก็ได้มีการเปิดตัว นัมแอร์ ในฐานะสายการบินที่ให้บริการรับส่งผู้โดยสารเพื่อต่อเครื่องสำหรับศรีวิจาย่า แอร์ขึ้นที่ Djakarta Theater Building หลังจากได้รับใบรับรองผู้ให้บริการของสายการบิน (AOC) แล้ว ในปลายเดือนพฤศจิกายน 2013 นัมแอร์ ก็ได้ให้บริการประเดิมเที่ยวแรกในวันที่ 11 ธันวาคม 2013 เที่ยวบินที่ไม่มุ่งแสวงหากำไรนี้เป็นการเดินทางจากจาการ์ตา (CGK) ไปยังปังกาลปีนัง (PGK) โดยเครื่อง Boeing 737-500 ที่จดทะเบียนในชื่อ PK-NAM ผู้โดยสารบนเที่ยวบินนั้นมีทั้งบอร์ดผู้บริหารของศรีวิจาย่า แอร์กรุ๊ปพร้อมหุ้นส่วนทางธุรกิจ รวมถึงนักหนังสือพิมพ์ และตัวแทนบริษัทท่องเที่ยว ในหนึ่งสัปดาห์ถัดมา วันที่ 19 ธันวาคม 2013 เที่ยวบินพาณิชย์เที่ยวแรกของ นัมแอร์ ก็ได้ให้บริการเที่ยวบินในเส้นทางอย่าง จาการ์ตา-ปนตีอานัก, ปนตีอานัก-ยอกยาการ์ตา, สุราบายา-ปังกะลันบัน, ปังกะลันบัน-เซอมารัง, สุราบายา-ปาลู และปาลู-ลูวัก นัมแอร์ เลือกสุราบายาเป็นศูนย์กลางในการให้บริการในภาคตะวันออกของอินโดนีเซีย ส่วนในภาคตะวันตกนั้น นัมแอร์ เลือกจาการ์ตา บางส่วนของเส้นทางในภาคตะวันออกได้แก่ จาการ์ตา-ซอรอง, จาการ์ตา-กูปัง, จาการ์ตา-ปนตีอานัก, สุราบายา-ลูวัก, สุราบายา-ปังกะลันบัน, สุราบายา-บยัก, สุราบายา-เดนปาซาร์, เดนปาซาร์-กูปัง, เดนปาซาร์-วาอิงอาปู, และเดนปาซาร์-มอเมเร ภายในเวลาไม่นาน นัมแอร์ ก็ได้แสดงให้เห็นความเติบโตในฐานะสายการบินที่ให้บริการผู้โดยสารเพื่อต่อเที่ยวบิน ในปีแรก นัมแอร์ ได้พาผู้โดยสารเกือบ 400,000 คนเดินทางด้วยเครื่องบิน 2 ลำของสายการบิน ภายใต้การนำของซีอีโอ คุณ เจฟเฟอร์สัน จอวีนา สายการบินก็ได้ให้บริการผู้โดยสารจำนวน 760,000 คนในปีที่สอง นอกจากนั้นในปีแรก นัมแอร์ ก็ได้เพิ่มเครื่องบินอีก 10 เครื่องเพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มจำนวนขึ้นด้วย เครื่องบินทั้ง 10 ลำของ นัมแอร์ เป็นเครื่องรุ่น 737 ซึ่งเป็นเครื่องบินรุ่นที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ครองส่วนแบ่ง 25% ของตลาดเครื่องบินลำใหญ่ของโลก เครื่องบินรุ่น Boeing 737-500 มีเทอร์โบแฟน CFM56 ที่มีอัตราบายพาสสูงและวงจรไฟฟ้าการบินที่ล้ำหน้ากว่าเครื่องรุ่นก่อน จึงเรียกได้ว่าเครื่องบินทั้งหมดของ นัมแอร์ ติดตั้งอุปกรณ์และเทคโนโลยีครบครันเหมาะสมกับการเดินทางในระยะใกล้ถึงปานกลางอย่างยิ่ง การรับรอง AOC 121-058 ได้ให้การรับรอง นัมแอร์ ในฐานะสายการบินพาณิชย์ที่มีกำหนดเวลา พร้อมความสามารถในการให้บริการผู้โดยสารมากกว่า 30 ที่นั่งต่อเครื่อง ด้วยเครื่องรุ่น Boeing 737 นัมแอร์ให้บริการที่นั่งชั้นประหยัดจำนวน 112 ที่นั่ง และที่นั่งชั้นธุรกิจ 8 ที่นั่ง เท่ากับว่าสายการบินสามารถให้บริการได้ถึง 120 ที่นั่งต่อเที่ยวบิน โดยเครื่องรุ่น Boeing 737-500 Winglets series จะให้บริการที่นั่งสองระดับ ส่วนเครื่องบินรุ่นอื่นๆ จะให้บริการที่นั่งชั้นประหยัดทั้งหมด จำนวนรวมถึง 148 ที่นั่ง ในปี 2015 นัมแอร์ ได้ขยายตัวเพื่อให้บริการในเส้นทางสายหลักมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เป็นเที่ยวบินให้บริการผู้โดยสารที่ต้องการต่อเครื่อง สายการบินจึงจำเป็นต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับเส้นทางการเดินทางไปยังเมืองเล็กๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจระยะยาวของสายการบิน นัมแอร์ ได้ลงชื่อในบันทึกเพื่อความเข้าใจร่วมกันในการซื้อเครื่องรุ่น Regio Prop R80 Series จาก PT. Regio Aviansi Indonesia บริษัทผู้ผลิตอากาศยานระดับประเทศของอดีตประธานาธิบดี บีเจ ฮะบิบี ด้วยฝีมือการออกแบบของปรมาจารย์ด้านการบินอย่างคุณบีเจ ฮาบิบี และลูกชาย คุณอิลอาม ฮะบิบี ทำให้ Regio Prop R80 ใช้ใบพัดเครื่องยนต์ติดเทอร์โบที่สามารถทำให้เครื่องบินได้ระยะทางไกลถึง 1,481 กม. โครงสร้างกระทันรัดแต่เรียบหรูรองรับได้ 92 ที่นั่ง ตัวเครื่องบินได้รับการปรับแต่งมาให้สามารถวิ่งบนรันเวย์ระยะสั้นเพียง 1.2 กม. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การปรับแต่งดังกล่าวสอดคล้องกับจุดประสงค์ของ นัมแอร์ ในการให้บริการเที่ยวบินไปยังเมืองเล็กๆ ของอินโดนีเซีย มีการวางแผนไว้ว่าเครื่องรุ่น R80 จะได้ให้บริการเที่ยวบินแรกในระหว่างปี 2019-2020 ดังนั้น ปัจจุบัน นัมแอร์ จึงยังให้บริการด้วยเครื่อง Boeing 737-500 ที่ให้บริการเดินทางระหว่างเมืองใหญ่และสร้างความมั่นใจในหมู่ผู้โดยสารได้มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีจำนวนผู้โดยสารจากดิลี ติมอร์ตะวันออกเพิ่มมากขึ้น นัมแอร์ ก็ได้เปิดให้บริการเที่ยวบินนานาชาติเที่ยวแรกไปดิลีในปี 2016 โดยสายการบินเล็งเห็นว่าเที่ยวบินไปดิลีนั้นมีไม่มากนัก และการตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ นัมแอร์ จึงได้ให้บริการเที่ยวบินไปกลับเดนปาซาร์-ดิลีทุกวันตั้งแต่นั้นมา เมื่อได้คำนวณการเติบโตที่เป็นไปได้ของตลาดอินโดนีเซียแล้ว ศรีวิจาย่า แอร์และ นัมแอร์ จึงคาดหวังว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึง 15 ล้านคนในปี 2017 ดังนั้น ทางสายการบินจึงได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการเครื่องบินสัญชาติฝรั่งเศส-อิตาลีรุ่น ATR 72-600 จากเมืองตูลูส นัมแอร์ ได้สั่งเครื่อง ATR ไว้จำนวน 12 ลำ โดย 2 ลำ ได้มาถึงแล้วในเดือนมกราคม ปี 2017 ส่วนลำที่เหลือจะค่อยๆ ทยอยมาถึงจนกะรทั่งสิ้นปี เครื่องบินรุ่น ATR 72-600 รุ่นใหม่นี้สามารถให้บริการที่นั่งโดยสารได้เพียงชั้นเดียว โดยจุได้ประมาณ 48-78 ที่นั่ง ดังนั้น การให้บริการที่นั่งชั้นธุรกิจจึงยังเป็นหน้าที่ของเครื่อง Boeing 737-500W อยู่ ศรีวิจาย่า แอร์จะจัดหาเครื่อง Boeing 737-500 ให้ นัมแอร์ เพิ่มอีก 17 ลำในอนาคต เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และจะทำให้ นัมแอร์ มีกองบินทั้งหมด 27 ลำ นัมแอร์ ได้ร่วมมือกับ Trans Nusa Aviation เพื่อให้บริการเที่ยวบินไปยังเมืองปลายทางที่ห่างไกล ปัจจุบัน นัมแอร์ สามารถให้บริการได้ด้วยตนเองเพราะมีจำนวนเครื่องบินเพิ่มขึ้น เครื่องรุ่น ATR ที่มีเครื่องยนต์ติดเทอร์โบ สามารถให้บริการเที่ยวบินระยะสั้นได้อย่างลงตัวพอดี เสริมให้สถานะผู้ให้บริการในระดับท้องถิ่นของ นัมแอร์ แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อีกด้านหนึ่ง เครื่อง Boeing 737-500 ที่เพิ่มเข้ามาก็จะทำให้ นัมแอร์ สามารถสยายปีกบินไปยังเส้นทางการบินสายใหญ่ๆ ในอินโดนีเซียได้มากขึ้น เมื่อสิ้นปี 2016 ทั้งศรีวิจาย่า แอร์ และ นัมแอร์ ได้ใช้เครื่อง Boeing ทั้งหมด 50 ลำเพื่อให้บริการ 120 เที่ยวบินต่อวัน ทั้งสองสายการบินให้บริการผู้โดยสารจำนวนมากกว่า 11 ล้านคน (โดย 90% ของทั้งหมดเป็นการเดินทางภายในประเทศ) และจะยังมุ่งมั่นนำเสนอบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าต่อไป